"เทคโนโลยีการศึกษา กับการส่งเสริมพระพุทธศาสนา"

หากเราๆ ท่านๆ ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองที่ปรากฏในสื่อมวลชนแขนงต่างๆ นั้น จะพบว่าแทบทุกวันมักจะมีข่าวในทางลบเกี่ยวกับเยาวชน จะหนักจะเบาก็แล้วแต่กรรมแต่วาระของแต่ละคน

 

และเมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้รับฟังจากปากของพ่อเมืองสุรินทร์ว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากเยาวชนเพิ่มและรุนแรงมากขึ้นกว่าเก่าก่อนมาก

 

ปรากฏการณ์เช่นนี้ มันลามไปทุกหัวระแหงของประเทศไทย ทั้งเป็นและไม่เป็นข่าวบ้าง ทั้งนี้คนในชุมชนย่อมรู้จักดี

 

ถึงแม้ทางการจะหามาตรการและวิธีการต่างๆ มาป้องกัน แก้ปัญหา แต่ดูเหมือนจะเป็นปลายเหตุเสียมากกว่า

 

ข้าพเจ้ายังเชื่อมั่นว่าวิธีทางตามแนวพระพุทธศาสนา จะเป็นหนทางหนึ่งที่บรรเทาหรือเยียวยาปัญหาที่เกิดในทุกวันนี้ได้

 

นอกจากปัญหาศีลธรรมที่ตกต่ำของเยาวชนแล้ว ปัญหาการคอรัปชั่นในบ้านเมืองเราก็จะค่อยลดน้อยถอยลงในอนาคตอีกด้วย

 

หรือคนที่กำลังทำอยู่และคิดจะทำ ก็คงรู้สึกละอายแก่ใจ หากคนในสังคมพากันต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการกระทำผิดเหล่านั้น

 

เว้นเสียแต่ว่า บุคคลนั้นจะไม่มี หิริโอตตัปปะ อยู่ในจิตใจหรือกมลสันดาน

 

เราต้องยอมรับว่าคนไทยทุกวันนี้ กำลังชื่นชมกับความสำเร็จของคนทางด้านวัตถุ ถึงแม้ว่าเขาจะทำธุรกิจที่ทำให้เยาวชนไทย กลายเป็นคนที่หันเข้าหาความเสื่อมถอยทางศีลธรรมมากขึ้น

 

ภาพข้างบนนั้น เป็นภาพถ่ายเมื่อเร็วๆ นี้จากนครลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมงานด้วย

 

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย ณ วันนี้ ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณคนไทยที่นั่น ที่ให้โอกาสและที่ยืนกับข้าพเจ้ามาเป็นเวลาเกือบ ๒ ปีแล้ว

 

หากท่านอ่านบทความของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ข้าพเจ้ามักจะพูดถึงกิจกรรมที่ข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติที่วัดไทย ลอสแองเจลิส อยู่บ่อยๆ

 

และข้าพเจ้าก็ยังคงจะกล่าวถึงอยู่ต่อไป

 

อย่างที่เรียนให้ทราบว่าตอนต้นว่า ทุกวันนี้ ศีลธรรมของเยาวชนและคนไทยเริ่มถอยลงทุกวัน ซึ่งหลายๆ หน่วยงานในภาครัฐ ต่างก็หาทางแก้ไขกันอยู่ ... ย้ำอีกครั้ง เราต้องยอมรับนะครับ

 

เมื่อข้าพเจ้ามีโอกาสไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่วัด และได้ซึมซับรับเอาวัตรปฏิบัติและคำสอนในช่วงนั้น กอปรกับที่คำสอนที่หลวงเตี่ยหรือพระธรรมราชานุวัตร ได้ให้ไว้ก่อนเดินทาง

 

ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่คุณูปการที่ท่านได้มอบไว้กับวงการพระพุทธศาสนารวมถึงการที่ท่านได้ให้โอกาสข้าพเจ้า

 

นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าปวารณาตัวไว้ว่า จะนำความรู้ความสามารถเท่าที่จะมีและทำได้ รับใช้พระพุทธศาสนาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

หลายๆ ท่านได้กล่าวถึงเว็บไซต์ของข้าพเจ้าว่าเปลี่ยนไปจากแนวทางของเทคโนโลยีการศึกษา จะกลายเป็นเว็บไซต์ธรรมะไปเสียแล้ว

 

เป็นเจตนารมณ์ของข้าพเจ้าเอง ที่จะผสมผสานทั้งเทคโนโลยีการศึกษาและพุทธศาสนา เพื่อการเผยแผ่ให้ได้มากที่สุด เท่าที่ข้าพเจ้าจะทำได้

 

อาจดูเหมือนข้าพเจ้าจะกล่าวโอ้อวดหรือยกยอตนเองมากเกินไป แต่ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น ตามกำลังของข้าพเจ้านะครับ

 

ตามที่ข้าพเจ้าจั่วหัวไว้ "เทคโนโลยีการศึกษากับการส่งเสริมพระพุทธศาสนา" ข้าพเจ้าคิดเอาไว้ ทำอย่างไรจะให้ พระธรรมคำสอน เข้าสู่ระบบการศึกษาในรูปแบบของสื่อที่ทันสมัยและน่าสนใจมากที่สุด

 

แน่นอน ... เรื่องนี้ไม่ใช่ข้าพเจ้าคิดคนแรกแน่ๆ และมีหลายๆ หน่วยงานนำไปปฏิบัติแล้ว พระไตรปิฎกก็ยังถูกบรรจุไว้ใน CD-ROM เรียบร้อยแล้ว

 

CAI ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนก็มีไม่น้อย ... เพียงแต่ว่า (ให้ท่านไปหาคำตอบเอาเอง)

 

ข้าพเจ้ากล่าวย้ำอยู่เสมอว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จู่โจมเข้าถึงบ้านคนในแวดวงการศึกษา จนตั้งตัวแทบไม่ทัน

 

กลับกลายเป็นว่าครูต้องมาทำงานเอกสารกันให้วุ่นไปหมด... ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนหน้านี้สัก ๑๐ ปี มีการคาดเดากันว่าหากหน่วยงานต่างๆ มีคอมพิวเตอร์ใช้แล้ว อัตราการใช้กระดาษจะลดลง หรือกลายเป็นสำนักงานไร้กระดาษ

 

มาถึงวันนี้ กลับกลายเป็นว่าอัตราการใช้กระดาษเพิ่มเป็น ๓๐๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ งานเอกสารล้นงานครูจนแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นกันแล้ว

 

ให้เราตรึกตรองกันดูเถิด

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งของการใช้เทคโนโลยี

 

ขณะที่โลกตะวันตกซึ่งเจริญพรั่งพร้อมด้านวัตถุ จนอีก ๑๐๐ ปีเมืองไทยก็ตามไม่ทัน หากเรามัววิ่งตามตัวเลขทางเศรษฐกิจ เพื่อความรุ่มรวยของคนไม่กี่จำพวก แต่คนส่วนใหญ่ยังยากจนเหมือนเดิม

 

จะมีประโยชน์อะไรในการมีประเทศ

 

วันนี้ เราต้องยอมรับโดยดีว่า คนที่พรั่งพร้อมด้านวัตถุเริ่มหันมาสนใจเรื่องราวภายในและแสวงหาความสันติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

 

เป็นนัยบางอย่างที่เราต้องขบคิด

 

และในฐานะที่ผมคิดว่าผมเป็นนักเทคโนโลยีการศึกษา (นอกระบบ) และผมก็เห็นว่าเราควรจะทำให้เรื่องราวของพระพุทธศาสนารวมถึงหลักธรรมคำสอนเป็นเรื่องสนุกในห้องเรียน

 

พื่อให้เยาวชนของเราเติบใหญ่เป็นคนที่มีคุณภาพ ไม่เป็นคนจอมปลอม คอรัปชั่นจนไม่ลืมหูลืมตา

 

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว

แม่น้ำเทมส์ ใช้เวลากว่า ๑๐๐ ในการเยียวยาให้เป็นแม่น้ำที่ใสสะอาด

 

ฉันใดก็ฉันนั้น

 

เริ่มคิดเริ่มทำวันนี้ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ผมเชื่อว่าเราประสบความสำเร็จแน่นอนครับ

 

 

ด้วยจิตคารวะ

กระดานดำออนไลน์



คำ "ติ-ชม" ของท่านมีค่ามหาศาลต่อการพัฒนาเว็บไซต์ครับ

created by.
กระดานดำออนไลน์
730/4 Tassabarn 7 Rd. Tambol.Ra-ngang
Sikhoraphum District, Surin Province.Thailand 32110

email : jakrapog@hotmail.com 
๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗

-ค