| นายดาด พันธ์พงษ์ 
            บุตรชายคนที่ ๒ จากพี่น้อง ๖ คน ของพ่อเพรียน แม่สำเนียง พันธุ์พงษ์ 
            อยู่บ้านเลขที่ ๒ หมู่ ๕ บ้านมะลูจรุง ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ 
            อายุ ๔๗ ปี สมรสกับนางลินจง พันธุ์พงษ์ มีบุตร ๓ คน 
            หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ดาด 
            ก็ออกมาช่วยครอบครัวทำนามาโดยตลอด กระทั่งได้สมรสกับนางลินจงเมื่อปี 
            ๒๕๓๓ และเมื่อมีทายาท วิถีชีวิตต้องเปลี่ยนไป เพื่อปากท้องของครอบครัวเมื่อหมดฤดูทำนา 
            ดาดได้หาอาชีพเสริมด้วยกับขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ย่านบขส.ในตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ 
            เพื่อนำรายได้มาจุนเจือและส่งเสียให้บุตรได้รับการศึกษา
 
            การที่มีบุตรชายถึง ๓ คน ทำให้ภาระหนักจึงตกแก่ดาดแต่เพียงผู้เดียว 
            เพราะภรรยาก็เป็นเพียงแม่บ้าน และไม่มีรายได้มากนัก ดาด 
            จึงมองหาช่องทางอื่นเพื่อจะนำรายได้มาสู่ครอบครัวให้มากกว่าที่เป็นอยู่ 
            และเผอิญในช่วงที่เขาได้ประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง 
            และเห็นว่ามีธุรกิจเกี่ยวกับการเหมารถปิ๊คอัพให้ไปส่งตามที่ต่างๆ 
            ซึ่งมีรายได้ดีกว่า เขาจึงเปลี่ยนจากขี่มอเตอร์ไซค์มาขับรถแทนรถคันแรก เป็นรถใหม่ป้ายแดงของน้องชายที่รับราชการครู 
            แต่ซื้อได้ไม่กี่เดือน ก็ไม่สามารถส่งงวดต่อได้ 
            ดาดจึงรับช่วงภาระนั้นมา
 อย่างไรก็ดี 
            ดาดต้องจ่ายค่าหัวคิวในการจอดรถปิ๊คอัพในย่านบขส. 
            โดยที่เขาต้องจ่ายไปเป็นเงินสูงถึง ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งดาดกล่าวว่า 
            ก็เหมือนกับการลงทุนซื้อที่ดินนั่นแหละ 
            เพราะสามารถทำมาหากินตรงนั้นได้ตลอดชีวิต
 วิบากกรรม
 
            ดาดเริ่มต้นชีวิตใหม่กับรถคันใหม่ ด้วยความหวังอันสวยหรู 
            ต่อแต่นี้ไปลูกและเมียคงมีความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ 
            เพราะรายได้จากการวิ่งรถปิ๊คอัพนั้น มากโขอยู่พอสมควรแต่ทุกอย่างก็มลายลงหลังจากเริ่มต้นได้เพียง ๒๗ วัน 
            ดาดถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่แสร้งว่าเป็นผู้โดยสาร 
            ว่าจ้างให้ไปส่งที่จังหวัดยโสธร
 
            ดาดเล่าให้ฟังด้วยความคับแค้นใจว่า โชคยังดีที่เขายังมีลมหายใจกลับมา 
            ถึงแม้รถคันนั้นจะถูกเชิดไป โดยไม่ไยดีว่า 
            คนที่ทำมาหากินโดยสุจริตจะเจ็บช้ำน้ำใจ 
            การกระทำของมิจฉาชีพกลุ่มนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้เขาเดือดร้อนเท่านั้น 
            ยังส่งผลถึงครอบครัวอีกด้วยดาด ใช้เวลาและเงินทองในการตามหารถ ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินของเขา 
            ถึง ๒ ปี แต่ก็สิ้นหวัง 
            อีกทั้งได้เห็นความฉ้อฉลของระบบข้าราชการไทยบางกลุ่ม
 
            ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ได้ติดตามหารถคันนั้นอีกเลยมิจฉาชีพกลุ่มนั้น 
            ทิ้งภาระหนี้สินให้ดาดและครอบครัวเป็นเงินราวครึ่งล้านบาท
 
 แก้ปัญหาด้วยสติ
 
            ถึงแม้ว่าจะเจอมรสุมชีวิต และวิกฤติที่ไม่คาดหวัง 
            ญาติพี่น้องของเขาเกรงว่าเขาจะหันไปหาอบายมุข และทำให้ชีวิตดำดิ่งลง 
            แต่ดาดเลือกแก้ปัญหาด้วยสติ ด้วยความหวังที่ว่า ชีวิตยังมีลมหายใจ  ดาดและลินจง 
            คู่ชีวิต ตัดสินใจไปทำสวนแตงกวาที่ผืนนาของพ่อ 
            ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านนั่นเอง ในช่วงแรกของการทำนั้น 
            ปรากฏว่าได้ผลผลิตเป็นอย่างดี 
            และก็เป็นแรงจูงใจให้เขาหันมาสนใจในเรื่องของการทำเกษตรอีกครั้ง
 เข้าสู่โครงการนำร่องฯ
 
            ดาดมีที่นาเป็นของตัวเองราว ๗ ไร่ ซึ่งทำนาเชิงเดี่ยว ปี ๒๕๔๓ 
            ดาดได้รู้จักกับโครงการนำร่องฯ ซึ่งได้มาแนะนำหลักการและวิธีการต่างๆ 
            เกี่ยวกับการเกษตรผสมผสาน เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ ปัจจัยต่างๆ 
            ที่ได้รับจากโครงการฯ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน แหล่งน้ำ และความรู้ต่างๆ 
            ที่สำคัญคือการทัศนศึกษาดูงาน การได้เห็น 
            ได้เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ดาดมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งในช่วงแรกของการเข้าร่วมโครงการฯ 
            ดาดและภรรยาเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า ผลผลิตดีมากๆ 
            พืชผักสวนครัว พริก มะเขือ ถั่วลิสง นำรายได้เข้ามาสู่ครอบครัว 
            ทำให้ลืมความทุกข์ ความเจ็บช้ำน้ำใจลงไปได้บ้าง
 
             
            นอกจากนี้แล้ว ในแปลงของดาด 
            ยังงบประมาณสำหรับสร้างโรงเรือนสำหรับเลี้ยงเป็ด ไก่และทำรั้วล้อมรอบ 
            แต่ถึงกระนั้น ยังมีวัวควายของเพื่อนบ้านเข้ามากัดกินพืชผลให้เสียหาย 
            หนำซ้ำ ยังมีคนมาขโมยปลาในสระของเขา 
            ข้อดีอีกประการหนึ่งในการเข้าร่วมโครงการนำร่องฯ 
            คือสามารถลดปัจจัยการผลิตจากภายนอกจำพวกปุ๋ยและสารเคมีลงไปได้มาก 
            โดยหันมาพึ่งพาปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักทำขึ้นเอง อย่างไรก็ตาม 
            จากวิกฤติชีวิตที่ผ่านมา 
            ทำให้ดาดต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อหารายได้มาใช้หนี้สินที่เขาไม่ได้ก่อไว้ 
            ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนโตสำหรับชีวิตเกษตรกร 
            ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลแปลงมากนัก 
            รวมถึงระบบการจัดการน้ำที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ 
            เพราะเขายังขาดเครื่องสูบน้ำ 
            ทำให้ไม่สามารถนำน้ำมาใช้กับผลผลิตทางการเกษตรได้มากนัก 
            แต่ชีวิตของลูกผู้ชายชื่อดาด ที่เชื่อว่าหากแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสติ 
            ไปทีละขั้น ทีละตอน ปัญหาอุปสรรคทั้งหลาย 
            ก็เป็นแค่เพียงบททดสอบความอดทนของมนุษย์ เท่านั้นเอง |