'Las Vegas


ความเดิมตอนที่แล้ว (Hoover Dam)

เรามีเวลาดื่มด่ำกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้เพียง ๒๐ นาที ก่อนจะนั่งรถผ่านสันเขื่อน เพื่อไปกินข้าวเย็นที่
ร้านโอชา ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยในลาสเวกัส ...

ใครเล่าจะไปนึกฝัน เมื่อครั้งเป็นเด็กๆ ดูถ่ายทอดสดมวยระดับโลกทีไร ไม่ว่าจะเป็น "มูฮัมหมัด อาลี"
"ลาร์ลี่  โฮม" "ไมเคิล  สปริงซ์" "มาร์วิน  แฮกเลอร์" "เลียวนาร์" ฯลฯ โอ๊ย!!! เยอะแยะสาธยายไม่หมด และ
ไม่ว่านักมวยดังๆ พวกนี้ชกทีไร ต้องเป็นที่ "ซีซาร์ พาเลซ" ลาสเวกัส แทบทุกครั้งไป ชื่อนี้มันก็เลยฟังหูมา
ตั้งแต่บัดนั้น มาบัดนี้ผมได้เยือนสถานที่ดังกล่าวแล้วครับท่านที่รัก

เส้นทางจาก Hoover Dam มา Las Vegas ก็ใช่ว่าจะใกล้ๆ
นะครับ ประมาณ ๓๕๐ ไมล์ สุรินทร์-กรุงเทพ นั่นแหละ ต้องใช้
เวลากว่า ๔-๕ ชั่วโมง 

อย่างไรก็ดี ทิวทัศน์ระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นภูเขาทะเลทราย
สลับกับไร่องุ่น แอ๊บเปิ้ล ทำให้ระยะทางที่ต้องใช้เวลาเดินทางนาน
หดสั้นได้ในความรู้สึกเหมือนกัน ส่วนอาการไข้ของผมก็หยุดๆ 
หายๆ ... และก็มาหนักที่สุดที่ Vegas นี่ละครับ

เรามาถึงที่หมายคือ ร้านอาหารโอชา ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ทั้งเหนื่อย เพลีย หิวและ
ทรมานจากการไอมาตลอดทาง เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่ได้บันทึกภาพบรรยากาศที่ร้านเก็บไว้ มาถึงตรงนี้
ก็ให้นึกเสียดาย ก็คงต้องวิ่งตามหาเอากับเพื่อนๆ ครูละครับ เพราะวันนั้นถ่ายกันไปหลายภาพเหมือนกัน

จะว่าโลกกลม โลกแคบ โลกเบี้ยว บูด หรือจะอะไรก็แล้วแต่ คณะครูของเรามาจะเอ๋เบบี้กับคณะครูที่เดินทาง
มาจาก San Francisco โดยมิได้นัดหมายหรือบอกกล่าวล่วงหน้าแต่อย่างไร เพราะโปรแกรมการสอนของ
แต่ละแห่งก็ไม่ตรงกัน อยู่ห่างกันก็เกือบๆ ๖ ชั่วโมง (ซึ่งพวกเราก็จะไปเยือน
San Francisco ในวันสุดท้าย
ของโปรแกรมทัวร์นี้ด้วย..โชคดีอีกแล้ววุ้ยเรา)

ทักทายกันสนั่นลั่นร้านละครับ คณะของครูจาก San Francisco มากันเพียง ๔-๕ คน แต่ที่ทำหน้าที่ครูอาสา
นั้นมีเพียง ๓ คน ต่างกับคณะของเราที่เฉพาะคณะครูนี่ก็ปาเข้าไป ๒๒ คนแล้ว เนื่องจากวัดไทยลอสแองเจลิส
เป็นวัดที่ค่อนข้างใหญ่และเป็นศูนย์รวมของคนไทยซึ่งมีจำนวนหลายแสนคนในนครแห่งนางฟ้า 

เมื่อมีคนไทยจำนวนมาก ลูกหลานที่เติบใหญ่ก็ต้องมากตาม ... คณะครูก็เลยมากอย่างที่รู้ๆ ละครับ ...อิอิ

เรานัดกันเป็นดิบเป็นดีว่า จะเจอกันที่โรงแรมที่คณะพวกผม
พักอยู่ คือโรงแรม Circus Circus เป็นโรงแรมหรูระดับ ๔ ดาว 
ผมได้พักชั้น ๒๒ นู้นแนะครับ โชคดีชะมัด ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของ
เมืองเต็มตากันก็คราวนี้ล่ะ 

ต้องยอมรับครับว่าความสามารถของมนุษย์ที่จะเอาชนะ
ธรรมชาตินี่มันเหลือร้ายจริงๆ รอบๆ เมืองเป็นทะเลทรายทั้งนั้น
เหมือนๆ กับยกเมืองมาตั้งไว้กลางทะเลทรายยังไงยังงั้น

ว่ากันว่า Las Vegas เมืองเดียวนี่แหละทำรายได้ให้กับสหรัฐจำนวนมากมายมหาศาลในแต่ละปี โดยเฉพาะ
รายได้จากนักท่องเที่ยวที่แวะมาแสวงโชคที่นี่ ... 

และถ้าจะตะลุยให้ทั่วเมืองก็ต้องใช้เวลา ๓-๔ วันเป็นอย่างน้อย แต่นี้เรามีเวลาเพียงคืนเดียว ใครมีปัญญา
หรือมีเรี่ยวแรงมาก ก็ตระเวณราตรีให้คุ้มก็แล้วกัน 

หลังจากอิ่มหมีพีมัน อาบน้ำแต่งตัวพอมีแรงขึ้นมาหน่อย ... ใช่ว่าอาการใข้ของผมจะหายนะครับ แหม!!!
ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีของผมเหลือเกิน ไม่ยอมหนีหายไปไหน พาราเซตตาม่อนที่พกมาจากเมืองไทยก็เอา
ไม่อยู่ ...

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมก็พกสังขารที่ไม่เต็มร้อยตระเวณ Las Vegas เท่าที่ผมจะทำได้

ราตรีของที่นี่เต็มไปด้วยสีสันอย่างแท้จริงครับ โรงแรมแต่ละแห่งประดับประดาด้วยแสงไฟต้อนรับนักพนัน
และนักท่องเที่ยวกันเต็มที่ โดยไม่กลัวว่าไฟฟ้าจะหมดหรือดับลง ก็มีเขื่อนยักษ์ Hoover Dam คอยปั่นไฟให้
ไงละครับเขาถึงสามารถทำได้ ขืนบ้านทำอย่างนี้บ้างมีหวังหมดป่าหมดเขากันพอดี

นอกจากจะประดับประดาด้วยสีสันของแสงไฟแล้ว แต่ละแห่งก็จัดการแสดงอันตระการตาให้ได้ชมกันอีกด้วย
ชมฟรีครับ ...ภาพซ้ายบนนั้น เป็นการแสดงเกี่ยวกับโจรสลัด ... สุดยอดจริงๆ ครับ ยังกะยก Hollywood
มาไว้ที่นี่ (เอาไว้หมดเรื่องท่องเที่ยวจะมาเล่าเรื่อง Hollywood ให้อ่านกันอีกครับ) เรือที่เห็นทั้งลำนั้น ตอนท้าย
ถูกจมลงไปต่อหน้าต่อตา ... พอรอบใหม่ มันก็โผล่ขึ้นมาอีก ...อ้อลืมบอกไป เป็นการแสดงของโรงแรม
Treasure Island

ส่วนภาพบนขวานั้น เป็นการแสดงภูเขาไฟน้ำพุของโรงแรม The Mirage สุดตื่นตาตื่นใจ ...ไม่รู้จะไปเปรียบ
เทียบกับอะไรตรงไหนดี เอาเป็นว่า ทั้งสวยทั้งแปลก (หากมีโอกาสได้ไปอีก จะถ่ายวีดิทัศน์มาให้ดูครับ)

ส่วนภาพล่างซ้าย เป็นบรรยากาศใน CAESARS PALACE ที่วาดท้องฟ้าบนเพดานยาวเหยียด ช่างคิด
ช่างทำจริงๆ คนเราเนี่ย ... 

และใน CAESARS PALACE อัครมหาสถานแห่งความบันเทิงทุกรูปแบบนี่แหละ ให้เดินทั้งคืนก็คงไม่
หมด ... คาสิโนที่เคยเห็นแต่ในหนัง ก็ได้เห็นของจริงกันที่นี่ละครับ ตามโต๊ะต่างๆ มีอัตราให้เล่นทุกราคากระทั่ง
เป็นล้านเหรียญ ล้านเหรียญดอลล่าร์นะครับ ไม่ใช่บาท ... จะบ้าตาย นึกถึงหนังเรื่อง Indecent Proposal
(ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า) ที่พระเอกโรเบิร์ต  เรดฟอร์ด จ้างนางเอกเดมี่  มัวร์ ให้ไปด้วย ๑ คืน ... มันมีจริงๆ แฮะ

คลำดูกระเป๋าตังค์ตัวเอง ที่มีติดตัวมาจากเมืองไทยเพียง ๑๐๐ กว่าเหรียญ มาถึงวันนี้เหลืออยู่ไม่กี่สิบเหรียญ
ส่วนหนึ่งก็เอาไปบริจาคเพื่อประสบการณ์ที่ Laughlin แล้ว กะว่าจะมาบริจาคเพื่อประสบการณ์ที่นี่อีกตาม
อัตภาพ

... ส่วนภาพล่างซ้ายก็เป็นบรรยากาศรวมๆ แค่มุมหนึ่งของ Las Vegas เท่านั้นนะครับ เกือบเที่ยงคืน
อากาศเริ่มเย็นลงพร้อมๆ กับอาการปวดหัวของผมเริ่มทวีคูณขึ้น

ระยะทางจากโรงแรมที่พักมาถึงตรงจุดสุดท้ายที่ผมเดินมานี่ คาดว่าประมาณ ๑ ไมล์ ผมกะว่าจะเดินกลับไป
ดูแสงสีไปเรื่อยๆ คงจะไม่เหนื่อยมาก พอเดินได้สักพักหมดแรงครับ พอดีครูเขมเดินสวนมาก็เลยชวนผมนั่ง
รถเมล์กลับด้วยกัน โดยมีคุณพี่ยาวจากอาหารโอชาที่มาเป็นไกด์นำทางให้กับคณะของเรา แต่ผมดันลุย
เดี่ยวซะนี่

อ้อ!!! ขอแนะนำพี่ยาวหน่อยนะครับ ฟังๆ พี่เขาเล่าก็น่าสนใจดี คือพี่ยาวนี่มาทำงานในลาสเวกัสโดยเป็น
คนแจกไพ่ โดยมีรายได้ตกราวๆ ชั่วโมงละ ๓๐ เหรียญ ดอลล่าร์นะครับไม่ใช่บาท วันหนึ่งก็ทำสัก ๕-๖ ชั่วโมง
ก็พอแล้ว 

อะฮ่า!!! ช้าก่อน อย่ารีบด่วนสรุปว่าแจกไพ่ไหงเงินดีขนาดนั้น กว่าจะได้มาทำงานนี้ ก็ต้องฝึก ต้องเรียน
ต้องสอบให้ผ่าน มีใบอนุญาตให้ทำงาน เหมือนใบประกอบวิชาชีพอะไรทำนองนั้น ... เพราะบ่อนที่นี่เปิดอย่าง
ถูกกฎหมาย ดังนั้นการจะทำมาหากินก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมืองเขา

เอาเป็นว่า "กฎหมายบ้านเขาศักดิ์สิทธิ์กว่าบ้านเราเยอ" ดูแต่ลูกสาวประธานาธิบดี ดื่มสุราขณะขับรถ
เขายังจับปรับแถมลงโทษอย่างไม่ไว้หน้าอีกด้วย ถ้าเป็นบางประเทศละก็ ... อิอิ ฝันไปเถอะ

โอ้... โม้เพลินอีกแล้ว เดินต่อดีกว่าครับ

ถึงโรงแรม ...เก็บอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนักในคืนนี้ ... พออาการเริ่มทุเลาลง ผมก็แวะลงมา
ชั้นล่างของโรงแรม 

ที่เพียบพร้อมไปด้วยการพนันแทบทุกชนิดที่เราสามารถเล่นได้ ... 

ครั้งหน้าจะมาบอกว่าได้หรือเสียครับผม...อิอิ


Homepage



คำ "ติ-ชม" ของคนมีค่ามหาศาลต่อการพัฒนาเว็บไซต์ครั
created by.
กระดานดำออนไลน์
775/11 Sukhapibarn 4 Rd. Tambol.Ra-ngang
Sikhoraphum District, Surin Province.Thailand 32110

email: jakrapog@hotmail.com
๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๔