"เทคโนโลยีการศึกษา:ทันสมัยหรือพัฒนา"
ตอนจบ |
จากที่กล่าวมาข้างต้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถ่ายภาพ, การผลิตวีดิทัศน์, การผลิต E-learning,
CAI, WBI, การผลิตตำรา, เอกสารต่างๆ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ
ถูกเก็บไว้ใน chip กว้างยาวไม่กี่เซนติเมตร รวมราคาค่างวดไม่ถึง ๒๐,๐๐๐
บาท เราก็สามารถเป็นเจ้าของ Studio ขนาดย่อมได้
ลองนึกตรึกตรองดูว่า
คอมพิวเตอร์ทุกวันนี้เราใช้มันคุ้มค่าหรือเปล่าหากกล่าวไป
ข้าพเจ้าไม่อยากให้คิดว่าเป็นการโอ้อวดหรือแสดงสรรพคุณ ขอให้คิดว่า
เรามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันดีกว่า
เป็นความเดิมตอนที่แล้ว
แนะนำ
Moodle ที่มหาวิทยาราชภัฏสกลนคร
เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาวันที่ ๕-๖ สิงหาคม
ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและโอกาสอย่างสูงให้ไปแนะนำ
Software สำหรับทำ E-learning
ที่ชื่อ Moodle
หวังว่าท่านผู้อ่านขาประจำของผมคงคุ้นเคยกันดีนะครับ
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
อย่างที่กล่าวไว้หลายครั้งหลายหนแล้วว่า ยุคนี้
เป็นยุคตื่นทองของ E-learning จริงๆ
และที่สำคัญคือ ใครๆ ก็สามารถทำเองได้
โดยไม่ต้องพึ่งพานักเทคโนโลยีการศึกษาอีกแล้ว
และสื่อการเรียนการสอนต่างๆ
ในอดีตที่ต้องอาศัยนักวิชาการโสตฯ หรือนักเทคโนโลยีการศึกษาช่วยผลิตให้
บัดเดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็ทำได้อีกแล้ว มีคอมพิวเตอร์สักชุดหนึ่ง,
กล้องถ่ายภาพดิจิทัล กับเครื่องสแกนภาพ, เครื่องพิมพ์
ก็สามารถผลิตสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
จะเอาอะไรละครับ ..
-
แผ่นใส ก็สามารถพิมพ์ออกมาจากเครื่องพิมพ์ได้แล้ว
-
ภาพประกอบการสอน มีแหล่งข้อมูลมากมายในแผ่น
CD
-
สื่อสิ่งพิมพ์ เอกสารประกอบการเรียนการสอน
-
สื่อมัลติมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
CAI, VCD
มีคู่มือการผลิต การใช้งานวางขายตามแผงหนังสือทั่วไป เด็กประถม
มัธยมก็สามารถทำได้แล้วทุกวันนี้
-
เว็บไซต์เพื่อการเรียนการสอน หรือ
WBI
ในเมื่อทุกอย่างมันดูเหมือน
On Board หมดแล้ว
เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่เมื่อก่อนอุปกรณ์ต่างๆ
ต้องซื้อหามาเสริมเพิ่มแต่ง เช่น VGA Card,
Sound Card, Modem, LAN
แต่บัดเดี๋ยวนี้ถูกบรรจุมาพร้อม Main Board
หมดแล้ว เราเพียงหา CPU กับ
RAM มาเพิ่มตามความต้องการแค่นั้น
เมื่อเครื่องไม้เครื่องมือผลิตสื่อทั้งหลายมันพัฒนาไปไกลสุดกู่
แถมยังบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์เกือบหมดแล้ว เราจะทำยังไงกันดี
หลักสูตรต่างๆ จะยังคงเหมือนเดิมอยู่หรือไม่
เป็นคำถามที่ท้าทายอย่างยิ่ง
และหมิ่นเหม่ต่อการถูกกล่าวหา (สำหรับผม--คนขบถ)
ให้ไปหาคำตอบกันเอาเองเถิด
...
มีหนังสืออีกเล่มที่ข้าพเจ้าอยากแนะนำให้อ่านคือ
The Road Ahead หรือ
เส้นทางสู่อนาคต ซึ่งเขียนด้วย บิลล์ เกตส์
บุคคลที่คนใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกรู้จักดี
บทที่ ๙ เรื่อง
การศึกษาคือการลงทุนที่ดีที่สุด (ข้าพเจ้าคิดว่าเคยกล่าวถึงไปแล้ว)
ในบทนี้
จะกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาในหลายมิติ
และเนื้อหาต่างๆ ในหนังสือก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งสิ้น
เพราะเขียนโดย บิลล์ เกตส์
ถึงแม้จะเขียนเมื่อปี ค.ศ.๑๙๙๕ หรือก่อนหน้านั้น
แต่มันคือปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น
และหากใครได้อ่านวิทยานิพนธ์ทั้ง ๒ เล่มของผม
ก็จะเห็นส่วนที่ผมอ้างอิงถึงในหนังสือเล่มนี้ด้วย (ว่างๆ
จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีก)
เอาละ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึงยุคตื่นทองของ
E-learning ของเมืองไทย
และขอเอาบทความที่เขียนเมื่อปี ๒๕๔๓ มากล่าวย้ำ
ซ้ำอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
เพื่อตอกย้ำความคิดของข้าพเจ้าเมื่อปี ๒๕๔๓
ว่า บัดเดี๋ยวนี้ มันกลายเป็นความจริง
ปี
๒๕๓๖ ผมได้รู้จักคำว่า
คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาเป็นครั้งแรกในระหว่างเรียนปริญญาโท
ด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ครั้งนั้นอาจารย์ได้เอาโปรแกรม
Toolbook 1.5 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ผมกับเพื่อนๆ
ช่วยกันแกะโปรแกรมจนกระทั่ง ToolBool II Instructor
ออกมานั่นแหละถึงเรียนจบใช้เวลาเรียน
๕ ปี พอดีแต่ก็คุ้มกับการเรียนรู้
ปี
๒๕๔๒ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา
ผมได้เห็นความแตกต่างของทั้งสองอย่างแล้ว ทำนายไว้เลยว่าต่อไปคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหรือ
CAI
ไม่ว่าจะสร้างจากซอฟต์แวร์ตัวไหนอาจจะต้องปิดตัวลงในเร็วๆ นี้
หากมีการพัฒนาเรื่องของ WBI กันอย่างจริงๆ จังๆ
ผมเลิกค้นคว้าและจับงาน CAI
ตั้งแต่ผมได้มาทดลองทำ WBI
หรือ Web-Based Instruction ทำไมผมถึงกล้ากล่าวเช่นนี้ลองมาดูความแตกต่างของทั้งสองนะครับ
|
|
สามารถเขียนโดย
HTML ซึ่งเป็น
การใช้ทรัพยากรของเครื่องน้อย |
ต้องเขียนจากโปรแกรม
ซึ่งใช้ทรัพยากร
และเนื้อที่ค่อนข้างมาก |
เปลี่ยนแปลงและแก้ไขข้อมูลง่ายและสามารถทำได้ตลอดเวลา |
เมื่อแก้ไขข้อมูลแล้วต้องทำการติดตั้ง
ใหม่ |
สามารถเรียนโดยไม่ต้องใช้แผ่นโปรแกรมในการติดตั้ง |
ต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนใช้งาน |
มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ออกแบบ
ผู้สอน
และผู้เรียนคนอื่นๆ ได้ |
มีปฏิสัมพันธ์เฉพาะกับตัวโปรแกรม |
เรียนได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต |
ต้องมีโปรแกรมถึงจะเรียนได้ |
ผู้เรียนสามารถ
Download ข้อมูลและนำไปปรับปรุงแก้ไขได้ |
ไม่สามารถนำไปปรับปรุงจากผู้ใช้แก้ไขได้ |
สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ
ได้ทั่วโลก |
ไม่สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลอื่น
* |
ตอนนี้ผมกำลังหาความแตกต่างของทั้งสองเพิ่มเติมอยู่นะครับ
อย่างไรก็ตาม
ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของระดับบริหารด้วย
แต่สำหรับผมแล้ว
ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า WBIจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทย...
๑ ก.พ.๒๕๔๓
|
อ่านมาถึงตรงนี้
ขอท่านอย่าได้มีอคติหรือหมั่นไส้ต่อข้าพเจ้าเลย
ขอให้เชื่อเถิดว่าข้าพเจ้ามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการศึกษาด้วยวิชาชีพที่ข้าพเจ้าร่ำเรียนมา
โดยสุจริตใจ ...
พลันที่ข้าพเจ้าได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
ให้ไปแนะนำ Software ดังที่กล่าวไปข้างต้น
ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า
ข้าพเจ้ายังเป็นคนโง่ที่อวดฉลาด อยู่ ...
ยอมรับกันดื้อๆ นี่แหละ
วรัท พฤกษาทวีกุล หรือ บักบอย, (http://www.edtechno.com),
สยาม จวงประโคน (http://www.siamednet.com)
และไพฑูรย์ ทิพย์สันเทียะ (http://www.toonsoftware.com) น้องทั้ง ๓
คนที่ร่วมพัฒนา thaimoodle.net และ
thaidigitalschool.net ด้วยกัน
ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ข้าพเจ้ากับบักบอยนั้น
คงไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์กันมากนัก แต่น้องอีก ๒ คน
เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่เราก็สนทนากันผ่าน
MSN กันเป็นประจำ
และทั้ง ๓ นั้น
ก็กำลังเรียนปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการศึกษา
ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าค้นพบเพชรน้ำงามของวงการเทคโนโลยีการศึกษา
จากการร่วมงานในครั้งนี้นี่เอง
ความไม่ประสาด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ถือเป็นจุดอ่อนอย่างยิ่งของข้าพเจ้า ทำให้ต้องเสียเวลาลองผิด
ลองถูกในการทดสอบโปรแกรมต่างๆ
และทำให้ท้อใจไปหลายครั้งหลายครา
แต่เมื่อมาพบกับน้องสยามและน้องไพฑูรย์
ทำให้ข้าพเจ้าพบวิธีกำจัดจุดอ่อนและสานต่อความคิดความฝันของพวกเราทั้ง
๔ คน
นั่นคือ ทำให้ E-learning
เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
ประการแรกคือ เรื่องการติดตั้ง
Software Moodle ในระบบ internet และ
intranet บนระบบปฏิบัติการ
Windows และ Linux
ซึ่งน้องไพฑูรย์ได้พัฒนาไปได้ระดับหนึ่งแล้ว เราตั้งชื่อว่า Summapi_Moodle Version
มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเป็นเกียรติที่ให้โอกาสเรา
ประการต่อมาคือ เราจะสร้างคู่มือการใช้งาน
Moodle ในรูปแบบ
Multimedia และนอกจากนี้แล้ว การพัฒนารูปแบบของ
theme ซึ่งน้องสยาม ก็จะเป็นหัวหอกในการพัฒนา
อย่างไรก็ดี E-learning
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีการศึกษาเท่านั้น
ยังมีทฤษฎีอีกมากมายที่เราต้องนำมาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
ซึ่งเราทั้ง ๔ คนก็คงทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
และเรายังต้องการเพื่อนร่วมทางครับ
ขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครเป็นอย่างสูงที่ให้โอกาสพวกเราครับ
ด้วยจิตคารวะ
|