 |
จังหวัดสุรินทร์
เป็นเมืองที่ได้รับขนานนามว่า
"เมืองช้าง" มานานกว่า ๓
ทศวรรษแล้ว
เนื่องจากการที่ได้ริเริ่มจัดการแสดงของช้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี
๒๕๐๓
และก็ได้จัดสืบทอดเป็นประเพณีมาจนกระทั่งทุกวันนี้ |
ในแต่ละปีนั้น
ก็จะมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก
ทำให้เศรษฐกิจของสุรินทร์เติบโตอย่างรวดเร็ว
และกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคอีสานอีกเมืองหนึ่ง
นอกจากการแสดงของช้างที่ลือลั่นไปทั่วโลกแล้ว
สุรินทร์ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย
เนื่องจากเป็นเมืองที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่รวมกันถึง
๓ กลุ่มด้วยกันคือ
กวย (กูย)
หรือส่วย
เขมร และลาว
ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีขนบประเพณีที่แตกต่างกันออกไป
และก็เป็นที่น่าสนใจและน่าอนุรักษ์ไว้สำหรับอนุชนรุ่นหลัง

สตรีชาวกูย
(อำเภอศีขรภูมิ) |

สตรีและเด็กชาวเขมร
(อำเภอศีขรภูมิ) |

สตรีชาวลาว (อำเภอศีขรภูมิ) |
ประเพณีงานบวชประจำปีที่หมู่บ้านช้าง
บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูมจังหวัดสุรินทร์
ก็เป็นอีกประเพณีหนึ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้อย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่สำหรับจังหวัดสุรินทร์หรือประเทศไทยเท่านั้น
แต่สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกเลยก็ว่าได้ |